แถลงข่าวความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีน​โควิด-19​ โดยคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ หลังทดสอบในลิงได้ผลดี​ เดินหน้าทดสอบในจิตอาสา

ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA ที่มีชื่อว่า “CU-Cov19” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ได้ดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิจัยในสัตว์ทดลองซึ่งเป็นข่าวดีที่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยได้มีการจัดแถลงข่าว “ความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ผลการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ในลิงเข็มที่สอง เตรียมพร้อมเดินหน้าทดสอบในมนุษย์เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2563 ณ ห้องประชุม 1210 ชั้น 12 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทยที่ผ่านมา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้เตรียมความพร้อมของสถานที่ แพทย์ พยาบาล บุคลากร เทคโนโลยีต่างๆ ที่ทันสมัย มีมาตรฐาน นำมาใช้ในการตรวจคัดกรองประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ทางด้านศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้รับความร่วมมือจากนักวิจัยทางการแพทย์ และวิทยาศาสตร์ทั้งในระดับประเทศและระดับโลกร่วมกันเดินหน้าพัฒนา วิจัย ต่อยอด การคิดค้น ผลิตวัคซีน เพื่อใช้ในการป้องกันโรคต่างๆ ให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด mRNA ที่มีชื่อว่า CU-Cov19” ผลการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ในลิงเข็ม    ที่สอง พบว่าลิงสร้างภูมิคุ้มกันได้ในระดับสูง มีสุขภาพดี พร้อมเดินหน้าทดสอบในมนุษย์ต่อไป

ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้อำนวยการบริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่าการพัฒนาวัคซีนนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สถาบันวัคซีนแห่งชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเงินบริจาคกองทุนวิจัยวัคซีน ซึ่งวัคซีน CU-Cov19 เป็นวัคซีนชนิด mRNA ที่ผลิตจากสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่บางส่วน ซึ่งเมื่อชิ้นส่วนของสารพันธุกรรมนี้ถูกฉีดเข้าไปในร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็นโปรตีนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันชนิดแอนติบอดีที่ช่วยต่อสู้กับไวรัสได้

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ผลการตรวจเลือดลิงหลังจากได้รับการฉีดวัคซีน CU-Cov19 กระตุ้นเข็มที่สอง ที่ศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นเวลาสองสัปดาห์ พบว่าลิงที่ได้รับวัคซีนทุกตัวมีระดับภูมิคุ้มกันที่เพิ่มขึ้น โดยมีระดับภูมิคุ้มกันที่สูงมากในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนโดสสูง นอกจากนี้ยังพบว่าลิงทุกตัวมีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีผลข้างเคียงจากการได้รับวัคซีน

จากผลการทดสอบนี้ ศูนย์วิจัยวัคซีนฯ จะเริ่มผลิตวัคซีนเพื่อให้พร้อมสำหรับการทดสอบในมนุษย์ตามแผนประมาณเดือนตุลาคม-ธันวาคมนี้ โดยการทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 1 จะเริ่มทดสอบทางคลินิกในอาสาสมัครกลุ่มแรกจำนวน 100 คน อายุ 18 – 60 ปี ซึ่งผ่านเกณฑ์ในเรื่องสุขภาพความปลอดภัยแล้ว   หลังจากนั้นจะทดสอบในมนุษย์ ระยะที่ 2 ในกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 500 – 1,000 คน ระหว่างเดือนธันวาคม 2563 – มีนาคม 2564  ทั้งนี้การรับสมัครอาสาสมัครเพื่อทดสอบวัคซีนจะเริ่มได้ก็ต่อเมื่อวัคซีนนี้ได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก อย. และผ่านการพิจารณาของกรรมการจริยธรรมของคณะแพทยศาสตร์แล้ว

จากขั้นตอนทั้งหมดได้วางแผนการผลิตวัคซีนไว้ที่ 10,000 โดส ซึ่งจะใช้ได้ประมาณ 5,000 คน หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน คาดว่าคนไทยจะได้ใช้วัคซีนในช่วงไตรมาสที่ 3 หรือไตรมาส 4 ในปี 2564